กรรม
- Inspiresoul Thailand
- Aug 27, 2022
- 1 min read
Updated: Sep 5, 2022

เมื่อพูดถึงกรรม (Karma) เรามักจะคิดถึงแต่สิ่งที่ไม่ดี พระเจ้าจะบอกท่านว่า กรรม คือการกระทำ กรรมไม่ใช่สิ่งที่ดีหรือสิ่งที่ไม่ดี แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากตัวเรา เมื่อกรรมคือการกระทำ ดังนั้น
กรรมมีทั้งกรรมที่มีสติ และกรรมที่ไม่มีสติ
นั่นก็หมายความว่ามนุษย์อาจจะทำกรรมใดๆ อย่างมีสติ หรือขาดสติก็ได้ กรรมที่มนุษย์ได้กระทำก็จะนำพาซึ่งผลลัพธ์ที่จะตามมา ดังนั้นหากมนุษย์มีสติก่อนที่จะทำกรรม มนุษย์ก็มักจะคิดถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นก่อนที่จะกระทำ และในทางกลับกันหากมนุษย์ขาดสติก็จะละเลยการคิดถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากการกระทำ การกระทำที่เราได้ทำนั้นอาจนำพาซึ่งความทุกข์หรือความสุข ซึ่งเราซึ่งเป็นผู้กระทำก็มักจะรับรู้ความรู้สึกนั้นได้
บางคนอาจจะพูดว่าเกิดมาใช้กรรม และยิ่งไปกว่านั้นเรามักจะบ่นว่าเพราะเรามีกรรมในชาติก่อนเราจึงต้องมาชดใช้กรรมในชาตินี้ และหากมนุษย์เวียนว่ายตายเกิดเป็นเรื่องจริง ใครกันเล่าที่จะจดจำกรรมที่เราทำในชาติก่อนที่ผ่านๆ มา และหากเราเกิดหลายครั้งกรรมคงจะใหญ่โตมโหฬาร แล้วเมื่อไหร่กรรมของเรานั้นจะบรรเทาเบาบาง หากเราเชื่อว่าเราทำกรรมดี สิ่งที่เราจะได้ในชาตินี้และชาติหน้าก็จะเป็นสิ่งดี ๆ แต่เหตุใดกันเล่า เรายังพบเห็นผู้คนที่มีความทุกข์ไม่ว่าชีวิตของเขาเหล่านั้นอาจจะดูย่ำแย่ หรือดูมีความสุขด้วยฐานะความเป็นอยู่ที่ดูสุขสบาย รวยก็มีความทุกข์ จนก็มีความทุกข์ สวยก็มีความทุกข์ ขี้เหร่ก็มีความทุกข์ เก่งก็มีความทุกข์ โง่ก็มีความทุกข์
ในบางความเชื่อไม่ได้ให้นิยามของกรรมไว้ว่าเป็นสิ่งที่ติดตัวมาจากชาติก่อนๆ หรือกรรมใดๆ ที่เกิดขึ้นในชาตินี้เป็นสิ่งที่เกิดจากชาติก่อน แต่ก็มีบางความเชื่อที่อาจจะพูดว่าทำกรรมอะไรไว้ในชาติก่อนในชาตินี้ก็เลยมีกรรม แนวความเชื่อนี้อาจจะดูขัดแย้งจากความเชื่อของพระเจ้าที่มักจะให้โอกาสมนุษย์ได้แก้ไข และก้าวข้ามความผิดพลาดของตนเองที่เคยทำ ซึ่งพระเจ้ามักจะไม่ข่มขู่หรือซ้ำเติม แต่สิ่งที่พระเจ้าต้องการให้มนุษย์นั้นรับรู้คือ
การตระหนักรู้ซึ่งผลที่จะตามมาก่อนที่จะกระทำกรรมใดๆ
หากมนุษย์สามารถทำได้ กรรมที่จะเกิดขึ้นนั้นจึงมักเป็นกรรมที่มีสติ ซึ่งมนุษย์นั้นได้ตระหนักรู้ในทุกๆ สิ่งที่จะตามมา ซึ่งผลของกรรมก็จะเป็นเครื่องพิสูจน์การกระทำนั้นต่อไปว่าจะมนุษย์จะสามารถก้าวข้ามกรรมทั้งหลายนั้นได้หรือไม่
เราอาจมีคำถามว่าเราสามารถหลีกเลี่ยงกรรมได้หรือไม่ พระเจ้าอาจจะตอบท่านว่า มนุษย์ทุกคนนั้นเกิดมาเพื่อเรียนรู้ การหลีกเลี่ยงกรรมโดยปฏิเสธ หรือมองข้ามสิ่งที่ควรทำหรือเรียนรู้ รังแต่จะทำให้กรรมที่มนุษย์เผชิญอยู่นั้นเติบโตเป็นความทุกข์ในจิตใจของมนุษย์ สิ่งที่พระเจ้าต้องการให้มนุษย์จัดการนั่นคือการเผชิญกับกรรมที่เข้ามาและปลดปล่อยมันออกไปอย่างเป็นอิสระ ซึ่งเมื่อมนุษย์ตัดสินใจที่จะเผชิญกรรม
การทำกรรมจะกลายเป็นความอิสระที่ปลดปล่อยมนุษย์และนำไปสู่การเติบโตของจิตวิญญาณ
สิ่งที่มนุษย์ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ คือการยอมรับผลของการกระทำ ไม่ว่าสิ่งนั้นมันจะดีหรือร้าย และอาจส่งผลต่อความทุกข์ที่จะเกิดขึ้นในจิตใจ แต่หากมนุษย์ได้เตรียมใจยอมรับล่วงหน้า กรรมเหล่านั้นก็อาจบรรเทาความทุกข์ต่างๆ ให้ลดลง
กรรมนำมาซึ่งเส้นทางของชีวิตที่จะนำพามนุษย์ไปสู่จุดที่มนุษย์นั้นต้องการ
หลายๆ คนอาจมองย้อนกลับไปที่ชีวิตของตนเอง และอาจจะเสียใจกับบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ได้ตัดสินใจทำ หรืออาจจะดีใจที่ได้ทำบางสิ่งบางอย่างนั้น ซึ่งสิ่งเหล่านั้นล้วนส่งผลต่อปัจจุบัน การตัดสินใจที่จะทำกรรมจึงเป็นจุดสำคัญที่จะนำพาให้เกิดการกระทำ แต่เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องที่ยาก หากมนุษย์อยู่ภายใต้อิทธิพลของบางสิ่งบางอย่างที่ครอบงำการตัดสินใจ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังตัดสินใจที่จะลาออกจากงาน คุณอาจจะพิจารณาหลายๆ อย่าง อาทิ ความรับผิดชอบต่อครอบครัว รายได้ อาชีพถัดไป และหากสิ่งเหล่านี้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจก็ยิ่งจะทำให้ไม่กล้าที่จะตัดสินใจทำ
การตัดสินใจที่เหมาะสมคือการตัดสินใจเมื่อเรามองเห็นสิ่งต่างๆ อย่างชัดเจนหรือเมื่อเรามีความสุขมากพอ
การมองเห็นสิ่งต่างๆ อย่างชัดเจน นั่นหมายความว่าคุณมองเห็นเส้นทางของการกระทำและผลที่จะตามมา คุณจึงตระหนักรู้ล่วงหน้าเพื่อจะได้เตรียมพร้อม และหากคุณมีความสุขแล้วการตัดสินใจใดๆ ที่เกิดขึ้นก็มักเป็นสิ่งที่คุณพร้อมที่จะยอมรับสิ่งที่จะตามมาเสมอ ดังนั้น
กรรมเป็นสิ่งที่กำหนดโชคชะตาของคุณเอง
เราต่างพูดบ่อยๆ ว่า "นี่คือกรรมของเรา" และนั่นก็แสดงให้เห็นว่า เราคือผู้ที่จะรับผิดชอบชีวิตของเราเอง ไม่ใช่คนอื่นใด ไม่ใช่กรรมที่พระเจ้าส่งให้เกิดกับชีวิตของเรา และไม่ใช่กรรมที่เกิดจากคนอื่นๆ รอบตัวเรา แต่เป็นเราที่กำหนดโชคชะตาของเราเอง
Inspire Soul
inspiresoulth@gmail.com
Copyright @2022 สงวนลิขสิทธิ์ห้ามเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต
Comments