บัญชีกรรม

Photo by Ashraf Ali on Unsplash

ในศาสนาพุทธนั้นการทำบุญเพื่อทำสังฆทานแด่เจ้ากรรมนายเวร อาจเป็นกิจกรรมหนึ่งที่แบ่งเบาความรู้สึกในจิตใจของมนุษย์ เมื่อเกิดความไม่สบายใจขึ้นมา แต่ในจิตใจลึก ๆ แล้วมนุษย์ส่วนใหญ่ก็อาจจะยังมีความหวาดกลัวต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตของตนเองตลอดเวลา แล้วคุณรู้สึกอย่างนั้นหรือไม่ ? จะทำอย่างไรเราจึงจะอยู่กับความหวาดกลัวและพร้อมที่จะเผชิญ ?

ความเชื่อที่ว่ามนุษย์ทุกคนนั้นมีการเวียนว่ายตายเกิด สิ่งที่ติดตัวแต่ละคนที่เกิดมานั่นคือกรรม การใช้ชีวิตของมนุษย์แต่ละคนนั้นอาจเปรียบเสมือนกับการผจญภัยของแต่ละคน ที่สะสมด้วยเรื่องราว ประสบการณ์ และตัวละครต่าง ๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง บางคนอาจเป็นตัวละครที่สำคัญในชีวิต เช่น เป็นพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง และเพื่อน บางคนอาจจะเป็นตัวละครที่ปรากฏเพียงบางครั้งคราว หรือบางคนอาจจะพบเจอกันเพียงแค่หนึ่งครั้งในชีวิตแล้วก็จากไป

ทุก ๆ คนในโลกมนุษย์นั้นถูกกำหนดให้เกี่ยวข้องกันไม่ว่าทางใดหรือทางหนึ่ง

แต่ละคนจึงต้องตัดสินใจเลือกที่จะทำกรรมไม่ว่าจะเป็นกรรมที่มีสติ หรือไม่มีสติ เมื่อมีความเกี่ยวข้องกับเพื่อนมนุษย์คนอื่น ๆ ซึ่งเมื่อพระเจ้าได้ส่งบทเรียนให้มนุษย์เรียนรู้ มนุษย์แต่ละคนนั้นมีหน้าที่ที่จะต้องชำระบัญชีกรรม ซึ่งจะต้องสะสางบัญชีเป็นการตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต คำถามที่เราสงสัยคือ เราจะหมดกรรมเมื่อไหร่ ? เราควรจะทำกรรมอย่างไร ? เราจะหยุดสร้างกรรมเมื่อใด ? กรรมของเรานั้นถูกจัดสรรอย่างไร ? และกรรมนั้นเกี่ยงข้องอย่างไรกับการเกิดในชาติก่อน ? คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่อาจจะค้นหาคำตอบได้ยาก เฉกเช่นกับการถามว่ามนุษย์มาจากไหน ธรรมชาติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดได้อย่างไร หรือคำถามง่าย ๆ ที่ว่าไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน คำตอบของคำถามเหล่านี้อาจจะทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นเมื่อเรามองว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้น คือความพิเศษที่พระเจ้าจัดสรร และอาจจะไม่ต้องสรรหาคำตอบใด ๆ เพียงแค่ขอให้มีสติในปัจจุบันก่อนที่จะกระทำกรรมใด ๆ

มนุษย์ทุกคนนั้นมีบัญชีกรรมที่จะต้องปลดปล่อย

บัญชีกรรม คือกรรมที่มนุษย์ผู้นั้นจะต้องเผชิญ เช่น การพบเจอผู้คนต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิต และอาจมีความสัมพันธ์ระหว่างกัน ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบใดก็ตาม การกระทำต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจึงเป็นการสะสมพลังงานบวกและพลังงานลบในตนเอง คุณอาจจะสังเกตได้ว่าบางคนที่เข้ามาในชีวิตของคุณนั้นเป็นคนที่ทำให้คุณรู้สึกสบายใจ และบางคนอาจจะทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ ความสัมพันธ์ที่ไม่สบายใจนั้นอาจเรียกว่า ความสัมพันธ์ที่มีเวรกรรมต่อกัน หรือมองได้ว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ดีหรือไม่สบายใจ แต่ความสัมพันธ์เหล่านั้นบางครั้งก็ไม่สามารถเลิกหรือยุติได้ง่าย ๆ เช่น ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่สมาชิกของคนในครอบครัวอาจจะสร้างความไม่สบายใจให้แก่กัน แต่ในสังคมไทยก็มักจะถูกบ่มเพาะว่า คนในครอบครัวนั้นสำคัญ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดีที่จะนำไปสู่การแก้กรรมได้ง่ายขึ้น

หลาย ๆ คนอาจเข้าใจว่า กรรม คือสิ่งที่ไม่ดี แต่ในการศึกษาทางด้านจิตวิญญาณนั้น กรรมคือการกระทำซึ่งอาจจะมีสติ และไม่มีสติ กรรมที่มีสติ คือกรรมที่ผู้กระทำตระหนักถึงผลต่าง ๆ ที่จะตามมาก่อนที่จะกระทำกรรมใด ๆ การกระทำที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะเป็นการกระทำที่ดีหรือไม่ดีก็ได้ ซึ่งผลของการกระทำนั้นจะเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่จะบ่งชี้ถึงความดีหรือความไม่ดีให้ผู้กระทำได้ตระหนักรู้

กรรม คือการกระทำที่ปลดปล่อยไปสู่ความเป็นอิสระ

การหลีกเลี่ยงกรรมจึงอาจจะไม่ใช่สิ่งที่จะนำไปสู่ความเป็นอิสระ เพราะภายในจิตใจของเราก็จะจดจำสิ่งนั้น และสร้างความเศร้าหมองหรือความทุกข์ให้กับตนเอง อย่างไรก็ตามการกระทำกรรมใด ๆ ก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่จะเลือกทำ ซึ่งเมื่อตัดสินใจที่จะทำแล้วก็ต้องพิจารณาการกระทำที่ถูกต้องหรือที่ควรกระทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์ควรจะต้องไตร่ตรอง การหลีกเลี่ยงสิ่งที่ควรกระทำด้วยการไม่ทำ อาจเป็นการสร้างสถานการณ์ที่เลวร้ายลงไปอีก และไม่แก้ไขให้สถานการณ์ต่าง ๆ นั้นดีขึ้น การกระทำเพื่อปลดปล่อยไปสู่ความเป็นอิสระ จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงกรรม จากที่มีกรรมหนักก็อาจจะเบาบางลง การทำกรรมจึงเกี่ยวข้องกับพลังงาน

พลังงานที่เราส่งออกไปสู่โลกนั้นคือกรรม ส่วนพลังงานที่กลับเข้ามาสู่ตัวเรานั้นคือโชคชะตา

หากเราทำกรรมดีสิ่งที่จะย้อนกลับเข้ามาก็คือโชคชะตาที่นำพาไปสู่สิ่งที่ดี

แต่หลาย ๆ คนก็จะเกิดข้อขัดแย้งในจิตใจว่า เหตุใดกันเล่ามนุษย์ที่ทำกรรมดีนั้นมักจะไม่ได้ผลตอบแทนที่ดี หรือบางคนต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการพากเพียรเพื่อกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด และอาจจะใช้เวลานานจนกว่าจะประสบความสำเร็จ ในขณะที่อีกคนนั้นความสำเร็จที่ได้มาอาจได้มาได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ได้ใช้ความพยายามมากมาย พระเจ้าจะบอกมนุษย์ผู้นั้นว่า

มนุษย์ที่มีความอุตสาหะและความพากเพียรพยายามนั้นแสดงถึงการมีจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์และมีกรรมดี

สิ่งนี้ คือสิ่งที่มนุษย์บนโลกมนุษย์มักมองไม่เห็นเพราะมุ่งแต่ผลลัพธ์หรือความสำเร็จที่จับต้องได้ด้วยวัตถุ หรือวัดได้จากปริมาณ แต่ในมิติของโลกจิตวิญญาณนั้นได้มองเห็นสิ่งนี้อย่างชัดเจน

กรรมในโลกจิตวิญญาณจะไม่ถูกตีค่าด้วยความสำเร็จหรือการมีผลลัพธ์ตอบสนอง ดังนั้นการกระทำใด ๆ ก็ตาม ควรทำด้วยความบริสุทธิ์ใจและไม่หวังสิ่งตอบแทน

ในเรื่องบางเรื่องมนุษย์ก็มักจะละเลยการพิจารณาตนเอง การไม่ยอมรับโชคชะตาของตนเอง และชอบกล่าวโทษว่ามนุษย์อื่น ๆ นั้นเป็นผู้กระทำต่อเรา โดยอาจลืมไปว่าการตัดสินใจที่จะกระทำกรรมใด ๆ นั้นเกิดจากตนเองที่เลือกกระทำทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าการตัดสินใจที่จะกระทำการบางอย่าง อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับผู้อื่นบ้าง แต่ท้ายที่สุดแล้วมนุษย์ผู้นั้นเป็นคนเลือกที่จะตัดสินใจทำ เจ้ากรรมนายเวรจึงอาจจะไม่ได้อยู่ในภพอดีตเท่านั้น แต่ยังอยู่ในภพปัจจุบันอีกด้วย

เจ้ากรรมนายเวรในโลกมนุษย์ คือจิตวิญญาณของรูปอื่น ๆ ที่มาเกี่ยวข้องกับมนุษย์ผู้นั้น

การพบปะกันระหว่างมนุษย์ในครั้งแรก จะเป็นสิ่งที่กำหนดชะตาชีวิตในครั้งถัดไป ยกตัวอย่างเช่น หากเราสามารถพูดคุยกับเพื่อนมนุษย์ได้อย่างสบายใจ การพบปะในครั้งที่สองนั้นก็ย่อมสร้างบรรยากาศที่ดีขึ้น แต่ถ้าการพบกันในครั้งแรกสร้างความไม่ประทับใจ การพบกันในครั้งที่สองก็จะมีโอกาสที่สร้างความรู้สึกไม่สบายใจหรืออึดอัดใจเพิ่มมากขึ้น หากมนุษย์ไม่สามารถแก้กรรมของตนเองได้ ก็จะทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ นั้นแย่ลงไป

การแก้กรรมจะเกิดขึ้นได้ถ้ามนุษย์ตระหนักว่าสิ่งต่าง ๆ รวมไปถึงความรู้สึกนั้นเกิดจากตนเอง โดยไม่ได้เกิดจากผู้อื่นแต่อย่างใด

หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถแก้ไขความรู้สึกไม่สบายใจได้ ทุก ๆ อย่างก็อาจจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งนั้นอาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็ตาม ถ้าหากสามารถแก้กรรมได้ โชคชะตาก็จะเปลี่ยนไปด้วย ความสัมพันธ์ของเรากับผู้อื่นนั้นก็จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี การบ่นหรือตำหนิผู้อื่นจึงไม่ใช่สิ่งที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง แต่

การเปลี่ยนแปลงภายในตัวเราจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของโชคชะตา

ยกตัวอย่างเช่น หากคุณพบเจอคนที่ทำให้คุณรู้สึกได้ถึงพลังงานลบ แต่คุณมีการตระหนักรู้ถึงบัญชีกรรมโดยไม่เอาสิ่งที่คุณกำลังประสบพบเจอมาเป็นตัวกระตุ้นการตอบสนองภายในจิตใจตนเอง การยกระดับของจิตวิญญาณของคุณก็จะเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งนั้นจะยังคงส่งพลังงานลบที่สัมผัสได้ก็ตาม แล้วคุณจะรับรู้ได้ว่าคุณยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น

จิตวิญญาณ คือสิ่งที่เป็นนิรันดร์

จิตวิญญาณเป็นสิ่งที่ไม่เคยสูญหายหรือสิ้นสุด สิ่งที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปนั้น คือร่างที่จิตวิญญาณหลอมรวมเพื่อให้เกิดขีวิต หากมนุษย์สามารถยกระดับจิตใจของตนเองได้ จะเกิดอีกกี่ครั้งก็จะมีแต่กรรมดี

Inspire Soul

inspiresoulth@gmail.com

Copyright @2022 by www.inspiresoulthailand.com ห้ามเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต