การศึกษาเกี่ยวกับจิตวิญญาณคืออะไร ?
- Inspiresoul Thailand
- Jul 8, 2022
- 1 min read
Updated: Jul 9, 2022

Photo by Aamir Suhail on Unsplash
การศึกษาเกี่ยวกับจิตวิญญาณ (Spirituality) เป็นการศึกษาในเรื่องต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ องค์ประกอบหลัก 4 อย่าง คือ ร่างกาย (body) จิตใจ (mind) อารมณ์ (emotion) และพลังงาน (energy) ซึ่งทั้งสี่อย่างนี้เป็นองค์ประกอบที่มีความเกี่ยวข้องกันและส่งผลให้การดำรงชีวิตอยู่ในสภาวะที่ดี (Well-being)
การศึกษาเกี่ยวกับจิตวิญญาณ เป็นการศึกษาเพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจในตัวตน ผ่านองค์ประกอบทั้งสี่อย่าง ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และพลังงาน
การศึกษาเกี่ยวกับจิตวิญญาณเป็นการเรียนรู้และนำไปปฏิบัติ ซึ่งไม่มีแบบแผน หรือวิธีปฏิบัติที่แน่นอน การศึกษาเกี่ยวกับจิตวิญญาณ อาจแตกต่างจากศาสนาพุทธที่มุ่งเน้นการปฏิบัติ เช่น การสวดมนต์ การทำวิปัสนากรรมฐาน แต่มีวิธีปฏิบัติที่แนะนำ คือ การทำสมาธิ ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกันกับศาสนาพุทธ การปฏิบัติตามแนวทางจิตวิญญาณและศาสนาพุทธ ต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือ
การขัดเกลาจิตใจของเราให้สามารถดำรงอยู่ในสภาวะที่มีสติสัมปชัญญะซึ่งตระหนักรู้ถึงปัจจุบัน
การศึกษาเกี่ยวกับจิตวิญญาณให้ความสำคัญกับการดูแลร่างกาย เช่น การรับประทานอาหาร และการออกกำลังกาย การปรับสภาพสิ่งแวดล้อม (เช่น การใช้กลิ่นจากน้ำมันหอมระเหย) เพื่อให้ร่างกายรู้สึกดีและปลอดโปร่ง การบริหารร่างกายแบบโยคะเป็นวิธีการหนึ่งที่แนะนำ ซึ่งการบริหารร่างกายแบบโยคะเป็นการขจัดการอุดตันของจุดจักระทั้ง 7 ในแนวกระดูกสันหลังของร่างกาย ซึ่งจะทำให้การไหลของพลังงานในร่างกายนั้นราบรื่น เมื่อจักระทั้งเจ็ดไม่มีการอุดตัน ก็จะทำให้ร่างกายรับรู้ได้ถึงพลังงาน การบริหารร่างกายด้วยการทำสมาธิเป็นการผ่อนคลาย เพื่อทำให้จิตใจสงบ ทำให้สมองไม่คิด และสามารถติดต่อไปยังจิตวิญญาณตัวเองและแหล่งจิตวิญญาณได้ ในแนวทางการศึกษาเรื่องจิตวิญญาณ ได้กล่าวว่า การเป็นมนุษย์ (Human being) นั้นมีจิตใจ (soul) ที่มาจากแหล่งเดียวกัน ซึ่งเชื่อว่าเป็นแหล่งรวมของดวงจิตวิญญาณ ดังนั้นมนุษย์ทุกคนจึงมีความเกี่ยวข้องกัน โดยไม่มีการแบ่งแยก สีผิว เพศ เชื้อชาติ แต่อย่างใด
ในเรื่องจิตใจมุ่งเน้นให้คุณเข้าใจตัวตนของคุณ (Self-realization) และมุ่งเน้นให้คุณพัฒนาจิตวิญญาณ (Self-development) ของคุณไปอยู่ในสภาวะที่จิตมีสติ (concious mind) รู้สึกถึงความเป็นตัวตนที่แท้จริงในระดับลึกๆ ซึ่งความเป็นตัวตนของคุณนั้นแสดงได้ด้วยเป้าหมายหรือสิ่งที่คุณต้องการทำในการเกิดในชาติปัจจุบัน
คุณมีจิตวิญญาณ (soul) ที่แสดงตัวตนที่แท้จริง แต่คุณไม่จำเป็นต้องมีตัวตน
การไม่มีตัวตนในโลกจิตวิญญาณก็คือการสลัดอัตตา (ego) ออกจากตนเอง เมื่อคุณไม่มีอัตตา คุณสามารถทำอะไรก็ได้ถ้ามีจิตใจที่เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว มุ่งมั่น และต้องการสร้างอะไรบางอย่างให้กับโลก จิตใจของคุณจะนำทางให้คุณทำสิ่งนั้นโดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ มาขวางกั้น
คุณไม่ได้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์แต่คุณคือผู้สร้าง (creator)
หากคุณมีจิตวิญญาณที่มีสติแล้วก็จะสามารถสร้างสิ่งดีๆ ให้แก่โลกและเพื่อนมนุษย์ได้
ในการศึกษาเรื่องอารมณ์ จะพูดถึงสิ่งกระตุ้นเร้าจากภายในตัวตน และภายนอกตัวตน ในการบริหารทางอารมณ์นั้น จะเน้นในเรื่องการทำความเข้าใจอารมณ์ของตัวเอง หรือเน้นการบริหารจัดการภายใน (Inner management) ส่วนการบริหารจัดการต่อสิ่งกระตุ้นภายนอก อาจทำได้เพียงแค่การสร้างความเข้าใจในตนเอง ว่า
เราต่างเป็นมนุษย์ที่มีความเชื่อมโยงและเราล้วนเป็นหนึ่งเดียว (Oneness)ในจักรวาล
ซึ่ง
อารมณ์เสมือนคลื่นที่เกิดขึ้นในมหาสมุทร ขณะที่มหาสมุทรเปรียบได้กับจิตวิญญาณที่กำลังแบกรับคลื่นที่อาจมีทั้งความสงบและความดุดัน
ดังนั้นหากคุณสามารถบริหารอารมณ์ของคุณได้ จิตใจก็จะไม่ห่อเหี่ยว ร่างกายก็จะไม่หลั่งสารพิษ (เช่น สารที่ทำให้เกิดความเครียด) และสามารถดำรงตนอย่างมีสติต่อไปได้
ส่วนพลังงาน คือ การสั่นสะเทือนที่สามารถรับรู้ (feeling) ได้จากการกระตุ้นประสาทสัมผัส (Senserimotor) ในจุดต่างๆ ในร่างกาย อาจกล่าวได้ว่าการศึกษาเรื่องจิตวิญญาณ มักนำวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการอธิบายเพื่อสร้างความเข้าใจในองค์ประกอบทั้ง 4 และเข้าใจในพลังงานที่แสดงออกจากรูป (form) เช่น ร่างกาย ร่างกายของเราคือรูปอย่างหนึ่ง คนอื่นๆ ก็เป็นรูปซึ่งแต่ละคนนั้นมีตัวตน พลังงานอาจเป็นแรง (force) ที่ก่อให้เกิดการกระทำหรือกรรม เช่น ความรู้สึกผลักดัน ความรู้สึกดึงดูด ความรู้สึกต่อต้าน พลังงานอาจเกิดขึ้นจากการทำงานของสมองซึ่งแสดงออกมาด้วยความคิด (เช่น ความคิดลบ และความคิดบวก) ซึ่งความคิดบางอย่างมาจากการจดจำของสมอง ที่บรรจุความรู้และประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิต และพลังงานอาจเกิดจากจิตใจและอารมณ์ที่เกิดขึ้นในสภาวะหนึ่งๆ หรือพลังงานอาจถูกปล่อยออกมาเพื่อแสดงความรุนแรงของอารมณ์ ร่างกายสามารถรับรู้พลังงานรอบตัวได้ (เช่น เดินเข้าไปในห้องจะทราบบรรยากาศภายในห้องนั้น ๆ)
ในการศึกษาทางจิตวิญญาณมีความเชื่อว่ามีบางสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากกายภาพ
เช่น เมื่อมองวัตถุหนึ่งๆ เราอาจจะสามารถมองเห็นพลังงานที่แสดงออกจากวัตถุนั้น หากจะยกตัวอย่างเกี่ยวกับมนุษย์แล้ว
มนุษย์ที่มีการขัดเกลาจิตวิญญาณอยู่บ่อยๆ มักจะมีออร่าที่ผู้อื่นรับรู้ได้ถึงการสั่นสะเทือน (vibes) ทำให้ผู้คนอยากเข้าใกล้ รู้สึกสบายใจ
และคนประเภทนี้มักสร้างบรรยากาศให้เกิดความสุขต่อมวลมนุษย์
การศึกษาทางจิตวิญญาณ เป็นการศึกษาเพื่อให้สามารถจัดการภายในตัวตนได้อย่างมีสติ (concious) ไม่ว่าสถานการณ์ภายนอกนั้นจะเป็นอย่างไรก็ตาม ซึ่งสถานการณ์นั้นอาจกระทบกับตัวตนในทางตรงหรือทางอ้อม
หากมนุษย์ในโลกนี้ต่างมีสติ เราก็หลอมรวมเป็นหนึ่งในสติของจักรวาล
โลกปัจจุบันนั้นมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและเป็นโลกของวัตถุนิยม เราให้ความสำคัญต่อการบริหารสิ่งของ การพัฒนากระบวนการ (เช่น สถานศึกษา การเมือง เศรษฐกิจ) มากกว่าการบริหารภายในจิตใจของมนุษย์ ดังนั้นสิ่งที่ปรากฎในปัจจุบันจึงเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง และที่สำคัญ คือ ความทุกข์ ซึ่งเราเหล่ามนุษย์มักจะรู้สึกได้ในจิตใจ ไม่ว่าจะมีความเจริญทางเทคโนโลยีหรือวัตถุแค่ไหน เรายังพบเห็นความทุกข์ของผู้คนได้อย่างทั่วไป ไม่ว่าเราจะสำเร็จการศึกษาในระดับใด เรายังพบเห็นเขาเหล่านั้นผิดหวังในการดำเนินชีวิต รบรา ฆ่าฟัน หรือเอาเปรียบกัน ซึ่งสิ่งที่เราปฏิบัติต่อผู้อื่นมักเกิดขึ้นจากความแตกต่างในทางความคิด ความแตกต่างในทางความเชื่อ และความแตกต่างทางจิตวิญญาณในตัวตนของเรา ซึ่งนำมาซึ่งความขัดแย้งระหว่างกัน และที่ร้ายที่สุดคือการสร้างความทุกข์ให้กับตนเอง และส่งผลให้จิตใจเศร้าหมอง ดังนั้นหากเราสามารถขัดเกลาจิตวิญญาณของเราได้
เราจะไม่มีการแบ่งแยกและหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว และสามารถแสดงความรักได้อย่างไม่มีเงื่อนไข
การศึกษาทางจิตวิญญาณมักกล่าวถึงพระเจ้า (God) พระเจ้า คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรามองไม่เห็น และไม่มีการแบ่งแยกเพศ พระเจ้า คือ สิ่งดีๆ และเป็นผู้สร้างทุกสรรพสิ่งบนโลก พระเจ้าคอยช่วยเหลือขัดเกลามนุษย์ให้พ้นผ่านอุปสรรค และปัดเป่าความทุกข์ พระเจ้าจะคอยให้ความช่วยเหลือผู้ที่สามารถขัดเกลาจิตวิญญาณของตนเองได้ หากวิเคราะห์กันตามจริงคงไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้า พระเจ้าอาจเป็นสัญลักษณ์ในรูปแบบหนึ่งที่เราสามารถยึดมั่นในการดำรงชีวิตได้ หรือพระเจ้าอาจจะอยู่ในตัวเราเพื่อผลักดันให้เราทำสิ่งดีๆ ต่อผู้อื่นหรือต่อโลก
โลกของเราจึงเปรียบเหมือนโรงเรียนที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ (soul) ที่มีหลายรูปแบบที่พระเจ้าส่งมา หน้าที่ของเราคือการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง เพื่อสลัดออกจากตัวตน เพื่อจะเป็นผู้ที่ไม่มีตัวตน และเราเหล่ามนุษย์จะร่วมกันสร้างโลกมนุษย์ให้เป็นสวรรค์ ก่อนที่จะกลับคืนสู่แหล่งต้นกำเนิดของดวงจิตวิญญาณอีกครั้ง
InspireSoul
Copyright @2022 by inspiresoulthailand.com ห้ามสำเนาหรือนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต
Comments