ความสุขต้องจัดการ

Photo by Catalin Pop on Unsplash

มีกี่ครั้งในชีวิตที่คุณรู้สึกถึงความสุข ? คุณอาจจะนึกถึงเหตุการณ์บางอย่างในชีวิตที่ผ่านมาที่ทำให้รู้สึกถึงความสุข แต่คุณจะพบว่ามันเป็นความสุขที่เกิดขึ้นเพียงชั่วครั้งชั่วคราว ดังนั้นการคงไว้ซึ่งความสุขในระยะเวลานานๆ จึงต้องมีการจัดการ หลายคนอาจใช้ชีวิตประจำวันของตนเอง จนอาจลืมประเมินไปว่าชีวิตที่คุณดำเนินอยู่นั้นเป็นชีวิตที่มีความสุขหรือยัง สิ่งนี้อาจทำให้คุณใช้ชีวิตอย่างชินชา จนไม่รู้สึกถึงความต้องการความสุขที่เพิ่มขึ้น คุณอาจจะพอใจในการดำรงชีวิตไปเรื่อยๆ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรหากคุณจะคิดแบบนั้น แต่คุณอาจจะลองถามตนเองอีกสักครั้งว่า ชีวิตที่คุณมีเป็นชีวิตที่ดีหรือยัง ? ซึ่งคุณสามารถสร้างสมดุลให้กับตัวคุณ เช่น ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และพลังงาน

ยิ่งเทคโนโลยีเฟื่องฟูมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งสร้างความสับสนระหว่างความหมายของคำว่า "ความสบาย" กับ "ความสุข" คนวัยหนุ่มสาวในปัจจุบัน อาจมีนิยามของความสุขที่ผูกติดกับเทคโนโลยี คุณอาจพึงพอใจในโลกส่วนตัวที่คุณสร้าง เมื่อเปิดหน้าจอโทรศัพท์มือถือ แท็ปเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ กอปรทั้งการได้รับการศึกษาที่บ่มเพาะความรู้ ความทันสมัยในเชิงวิชาการ ความเจริญทางเศรษฐกิจ ที่คุณได้รับประโยชน์จากการแข่งขันของธุรกิจ คุณช่างโชคดีที่มีสิ่งเหล่านี้ในช่วงเวลาของชีวิตที่คุณกำลังเติบโต แต่คุณควรตระหนักว่า

ความเจริญทางเทคโนโลยี การศึกษา สังคม และเศรษฐกิจ อาจทำให้คุณลืมรากเหง้าของความสุขที่แท้จริง

ซึ่ง

ความสุขที่แท้จริงต้องเริ่มจากภายในจิตใจของคุณ

สิ่งรอบข้างภายนอกนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ยกระดับอีโก้ คุณอาจจะดีใจเมื่อมีคนชมสิ่งของที่คุณครอบครอง คุณอาจจะพอใจที่คุณมีรถยนต์หรูหราที่สามารถหามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของคุณเอง คุณอาจจะรู้สึกเป็นคนพิเศษเมื่อได้นั่งเรือยอร์ชและถ่ายรูปสวยๆ แต่ลองถามตัวเองลึกๆ สิ่งที่คุณทำนั้นเป็นความสุขที่แท้จริงภายในจิตใจ หรือเป็นแค่การแสดงความสุขต่อสังคมเพื่อนมนุษย์ที่คุณมี

ข่าวคราวของคนวัยหนุ่มสาวป่วยเป็นโรคซึมเศร้ากันมากขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุหลักๆ ของโรคมาจากการเปลี่ยนแปลงด้านจิตใจและอารมณ์ และส่งผลต่อร่างกาย อีกทั้งสารเคมีในสมองบางอย่างที่ผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากสภาวะจิตใจและอารมณ์ ผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้ามักรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า การยกระดับทางจิตใจเพื่อให้เห็นมุมมองใหม่ในการใช้ชีวิต จึงเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการรักษา หากจะมองย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีหรือมากกว่านั้น โรคซึมเศร้าแทบจะไม่เป็นที่รู้จัก การใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่ คือ การอยู่กับครอบครัว ดูทีวีร่วมกัน รับประทานอาหารร่วมกัน หยอกล้อและพูดคุยกัน นี่คือวิถีชีวิตที่แตกต่างระหว่างสังคมโลกที่เฟื่องฟูเทคโนโลยีและสังคมในอดีตที่ถูกมองว่าล้าสมัย เราอาจลืมไปว่า

มนุษย์ต้องอยู่ร่วมกันและต้องมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน

ซึ่งเป็นพื้นฐานในการสร้างความสุข ในชีวิตส่วนตัวและในสังคม การสร้างโลกเสมือนเพื่อสร้างความพึงพอใจส่วนตัว อาจหลอกล่อให้คุณหลงใหล และลืมไปว่าคุณยังมีคนที่อยู่ข้างๆ ที่กำลังสนับสนุน ให้กำลังใจคุณ และเฝ้ามองการเติบโตของคุณ เพียงแค่คุณเปิดใจ ทักทาย พูดคุยกับคนรอบข้าง คุณก็จะสัมผัสได้ต่อโลกแห่งความจริง

พระเจ้าจึงต้องการให้คุณเรียนรู้วิชา "การมีความสุข" ที่คุณไม่หลงไปกับภาพมายาความเจริญทางวัตถุและเทคโนโลยี เมื่อไหร่ที่คุณเริ่มตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงในสภาวะจิตใจและอารมณ์ มันคงถึงเวลาแล้ว ที่คุณต้องตื่นขึ้นมาเพื่อจัดการ และทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า

ความสุขไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยไม่ได้จัดการ

โลกเสมือนจริงที่สร้างสังคมเสมือน อาจสร้างความสุขให้คุณได้ในบางครั้งคราว อย่างไรก็ตาม

มนุษย์ต้องมีกิจกรรมที่ต้องทำร่วมกันจึงจะเกิดสายสัมพันธ์เชื่อมโยงที่สร้างความสุขได้อย่างแท้จริง

การดำเนินชีวิตของมนุษย์ ส่งผลต่อความสุขของมนุษย์โดยตรง มนุษย์คนหนึ่งๆ มีครอบครัวและสังคมที่อยู่รอบตัว การจัดการชีวิตจึงมีสองส่วน คือ การจัดการภายในตนเอง และการจัดการภายนอก การจัดการภายนอก เป็นการจัดการเพื่อให้สิ่งแวดล้อมรอบตัว สนับสนุนให้เรามีความสุข ส่วนการจัดการภายในเป็นการจัดการเพื่อให้รู้จักตัวตน และอยู่ได้อย่างมีสติและมีความสุข เมื่อเราจัดการได้ทั้งสองส่วนแล้ว เราจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

อย่าปล่อยให้สิ่งรอบตัวกำหนดชีวิตให้คุณ แต่คุณต้องกำหนดชีวิตให้กับตัวเอง

บางคนอาจเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ส่งเสริมในการสร้างความสุข แต่คุณก็สามารถสร้างความสุขให้กับตัวคุณได้ เพียงแค่

คุณต้องสร้างช่องว่างระหว่างตัวเองและครอบครัว เพื่อหันมองปัญญาให้ชัดเจน

แล้วลงมือจัดการเท่าที่คุณจะทำได้ เช่นเดียวกัน ระหว่างตัวคุณกับสังคมรอบตัว คุณมีความสุขหรือยัง ? หากคุณยังไม่พบความสุขจากสิ่งรอบตัว เช่น สังคมในที่ทำงาน หรือสังคมในสถานศึกษา มันก็คงถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องดึงตัวเองออกจากตรงนั้น

มนุษย์ทุกคนต่างมีศักยภาพในการจัดการชีวิตของตนเอง มีเพียงไม่กี่อย่างที่ฉุดรั้งตัวคุณ นั่นคือ

ความไม่มั่นคงและความมั่นคง

ซึ่งเป็นกับดักขัดขวางความสุข หากคุณยังติดยึดกับสิ่งนี้ ก็อาจทำให้คุณไม่สามารถหลุดพ้นสภาวะปัจจุบัน เพื่อไปพบกับความสุขที่แท้จริงได้ ในทางกลับกันหากคุณตัดสินใจอย่างแน่วแน่ ที่จะออกจากกับดักนั้น คุณจะต้องแน่ใจและยอมรับให้ได้ว่า มันจะไม่ทำให้คุณเศร้าหมอง และคุณพร้อมที่จะยอมรับผลที่ตามมา ในทุกๆ สิ่งและทุกๆ อย่างที่จะเกิดขึ้น

พระเจ้าจะแนะนำคุณว่าคุณต้องมองเห็นวิธีการหรือขั้นตอนที่คุณจะต้องออกจากกับดักนั้น แล้วลงมือทำ

เพราะ

เวลานั้นไม่คอยท่า

การเลื่อนเวลาในการค้นพบความสุข รังแต่จะทำให้คุณเสียเวลา และสร้างความทุกข์ให้เกาะกินในจิตใจ แต่หากคุณยังไม่สามารถหาวิธีการสนับสนุนได้ คุณก็อาจจะต้องเปิดใจ แล้วมองกับดักนั้นด้วยการคิดบวกกับมันแทน แต่ถ้าคุณตัดสินใจที่จะเดินหน้า การวางแผน การกำหนดวิธีการ และการกำหนดขั้นตอน จะทำให้คุณมองเห็นภาพแห่งความสุขของคุณได้อย่างชัดเจนขึ้น แต่คุณก็ต้องตระหนักรู้ถึงความจริงที่ว่า

อย่าเพ้อฝันว่าคุณจะทำอะไรได้ทุกอย่าง แต่อย่าประมาทมองข้ามความสามารถของตนเอง

พระเจ้าให้กำลังใจกับมนุษย์ทุกคน ที่ต้องการพบกับความสุข และพระเจ้าจะคอยช่วยเหลือให้คุณสามารถปฏิบัติภาระกิจนั้นได้ อย่ากังวลกับสิ่งที่คุณตัดสินใจว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกหรือผิด ถ้า

กรรมที่คุณจะกระทำนั้นเหมาะสมกับกาลเวลา สภาวะ ณ ขณะนั้น และคุณตระหนักรู้ถึงผลที่จะตามมา

InspireSoul

inspiresoulth@gmail.com

Copyright @2022 by inspiresoulthailand.com ห้ามสำเนาหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต