top of page

    จิต วิญญาณ ร่างกาย และศรัทธา

    Updated: Sep 4, 2022



    หลายคนอาจจะสงสัยว่าเมื่อเราเกิดมา ทำไมเราจึงมีจิตใจ และร่างกายอย่างที่เป็น หลายคนอาจจะคิดว่านี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการเลี้ยงดู และเป็นการเรียนรู้จากสิ่งรอบตัว ศาสนา วัฒนธรรม และสังคม สิ่งที่เราคิดนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่หล่อหลอมทำให้เราเป็นมนุษย์ที่มีจิตใจ ความคิด และพฤติกรรมในอย่างที่เป็นปัจจุบัน และสิ่งเหล่านี้จะผันแปรเปลี่ยนแปลงไปตามเวลาขึ้นกับอัตตา และการตื่นรู้ของแต่ละคน


    ลองถามตัวเองสิว่าในอดีตที่ผ่านมาเมื่อสิบปีก่อน และในปัจจุบันวันนี้เรามีอะไรที่เหมือนเดิมหรือมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงบ้าง เราคงจะต้องยอมรับว่ามีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นสิ่งต่างๆที่เราเรียนรู้ หรือถูกเลี้ยงดู หล่อหลอมมาในอดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นเพียงเครื่องมือนำทางให้เราเดินไปในจุดหนึ่ง ซึ่งจุดนั้นอาจจะเป็นจุดที่คนอื่นกำหนดให้กับเรา หรือตัวเรากำหนดขึ้นเอง สิ่งที่เราต้องการอาจเป็นบทบาทในชีวิตที่เราจะต้องทำเพื่อการดำรงชีวิตอยู่ภายในสังคม แต่ความต้องการลึกๆภายในของจิตวิญญาณของเรานั้นอาจจะมีความต้องการที่อยู่ในระดับลึกซึ่งเราเองจะต้องทำการค้นหา และสร้างให้เกิดขึ้นจริง


    จิต วิญญาณ และ ร่างกาย เป็นองค์ประกอบของการเป็นมนุษย์ เป็นองค์ประกอบหลักในการกำเนิดและประพฤติปฎิบัติของบุคคลคนหนึ่ง

    เราเคยมีความเชื่อว่าจิตวิญญาณคือสิ่งที่แยกออกจากร่างกาย หลายคนพูดว่าหากกายป่วยจิตใจไม่ป่วย อาจจะทำให้การเยียวยาฟื้นฟูให้หายป่วยได้ ในทางกลับกันเมื่อร่างกายป่วยและจิตใจยิ่งหดหู่เศร้าหมอง ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตอาจจะดูล่มสลาย เราเคยได้รับทราบข่าวคราวของหลายๆคน ที่เกิดการล้มป่วยในภาวะที่ไม่ทันได้ตั้งตัว แต่เขาเหล่านั้นสามารถเอาชนะโรคที่ร้ายๆได้ สิ่งเหล่านี้ดูราวปฏิหาริย์ บางคนอาจจะคิดถึงเรื่องของโชคชะตาและยอมจำนนต่ออุปสรรคที่เจอ แล้วอะไรล่ะที่จะทำให้เราเข้มแข็งเพื่อหลุดพ้น หรือกลับไปต่อสู้กับสิ่งที่น่ากลัวที่ต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    จงยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วจงศรัทธาในตัวเอง

    กำลังใจต่างๆที่จะทำให้คุณสามารถฝันฝ่าอุปสรรคต่างๆได้ กำลังใจที่สำคัญนั้นคือศรัทธา (Faith)

    ศรัทธา คือ ความเชื่อและความมุ่งมั่น ที่เป็นแรงกระตุ้นเพื่อให้เราต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรค

    หากเราเป็นมนุษย์ที่มีจิต และ ร่างกาย แต่ปราศจากวิญญาณ เราก็คงจะเป็นเหมือนคนที่ไม่รับรู้ต่อสิ่งรอบข้าง ทำอะไรตามใจตัวเอง หากเรามีวิญญาณที่ตื่นและรู้ตัว เราจะเป็นมนุษย์ที่อยู่ในระดับที่สูงขึ้น ลองยกตัวอย่างง่ายๆ ที่เราพบเห็นในสังคม ผู้ที่เคยต้องโทษบางคน ต้องกลับเข้าไปรับโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะเขาเหล่านั้นอาจจะไม่สามารถพัฒนาตนเองเพื่อต่อสู้กับสิ่งแวดล้อมที่ตนคิดว่าเลวร้ายและไม่ได้รับโอกาส สุดท้ายก็ทำพฤติกรรมแบบเดิมๆ ทั้งที่ในขณะที่ต้องโทษเขาเหล่านั้นอาจได้รับการฝึกอบรมอาชีพ หรือฝึกอบรมด้านที่จะพัฒนาจิตใจ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่อาจทำได้


    เราลองสังเกตโลกในปัจจุบัน มีการพูดถึงจิตวิญญาณกันมากมาย มีการฝึกอบรมต่างๆที่เน้นในเรื่องของจิตวิญญาณ ยกตัวอย่างหัวข้อการอบรม เช่น การฝึกเป็นผู้ประกอบการที่มีจิตวิญญาณ การสร้างจิตวิญญาณในความเป็นครู ผู้ผ่านการฝึกอบรมต่างๆ ได้รับประกาศนียบัตรผ่านการฝึกอบรม แต่อาจจะต้องลองถามตนเองว่าเราเป็นแบบนั้นจริงหรือไม่

    การตระหนักรู้ในการเป็นมนุษย์ที่มีจิตวิญญาณ ย่อมจะพึงระวังสิ่งที่ตนเองกระทำต่อผู้อื่น และแสดงออกด้วยความมีเมตตา อย่างไม่มีอะไรเคลือบแคลงใจ

    คนบางคนมักใช้คำพูดทำร้ายทิ่มแทงคนอื่น กลบด้วยเสียงหัวเราะที่บิดเบือนความรู้สึกตนเอง ซึ่งปรารถนาต่อผู้อื่นนั้นเป็นความปรารถนาดีที่มีความบริสุทธิ์หรือเคลือบแคลงก็ไม่อาจรู้ได้ ในสังคมไทยของเราจะพบเห็นคนที่ปฏิบัติเยี่ยงนี้เยอะมาก เราหัวเราะกันง่าย แต่เราไม่ตระหนักรู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นมีผลต่อคนรอบข้างและฝังลึกให้เกิดความเคยชิน ท้ายที่สุดทำให้เราทำร้ายกันเองโดยไม่รู้ตัว เรื่องคอขาดบาดตายกลายเป็นเรื่องตลกขบขัน ทำให้เราไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรคือเรื่องที่ควรขบขันหรืออะไรคือเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ

    จิต ก่อให้เกิดความคิดและอารมณ์ วิญญาณก่อให้เกิดการตระหนักรู้และสำนึกต่อผู้อื่น และร่างกายเป็นกำลังขับดันสิ่งที่อยู่ภายในตัวมนุษย์เพื่อให้ปรากฏ

    หากเราทุกคนเข้าใจสามองค์ประกอบ จิต วิญญาณ และร่างกาย แล้ว เราจะอยู่ในสังคมที่ไม่มีใครทำร้ายกันเอง


    Inspire Soul



    Copyright @2022 by inspiresoulthailand.com สงวนลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต

    Comments


    bottom of page