top of page

    จิตใต้สำนึก

    Updated: Sep 7, 2022



    หลายท่านคงจะได้ยินได้ฟังคำว่า Conciousness และ Subconciousness ในภาษาอังกฤษนั้น Conciousness คือ การมีสติสัมปชัญญะ ส่วน Subconciousness คือ จิตใต้สำนึก ในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์กล่าวไว้ว่ามนุษย์เรานั้นไม่ได้ใช้สติในการดำเนินชีวิต แต่การตัดสินใจต่างๆล้วนเกิดจากจิตใต้สำนึก การใช้สติ คือสภาวะที่ควบคุมด้วยสมองในการตัดสินใจ แต่การใช้จิตใต้สำนึกในการตัดสินใจไม่ได้ใช้สมองเป็นศูนย์กลางในการตัดสินใจ ยกตัวอย่างเช่น เรามักจะเลือกกินของที่เราชอบ เรามักจะทดลองของแปลกใหม่ ซึ่งการตัดสินในการกระทำมักจะไม่ได้ถูกควบคุมด้วยสติ แต่มาจากจิตใต้สำนึกเป็นส่วนใหญ่ ในทางวิทญาศาสตร์นั้นบอกไว้ว่าเราใช้การตัดสินใจจากจิตใต้สำนึกกว่า 95% ในขณะที่สติถูกใช้เพียงเล็กน้อย

    จิตใต้สำนึก (Subconciousness) ของแต่ละคน คือสิ่งที่คนๆนั้นได้เรียนรู้มาตั้งแต่เกิด จนเติบโต ในบางเรื่องราวที่เราสัมผัสจึงก่อตัวเป็นเหมือนความเชื่อที่ทำให้เราระลึกได้ โดยไม่ทราบว่าสิ่งเหล่านั้นมาจากไหน แต่อันที่จริงแล้วสิ่งเหล่านั้นฝังอยู่ในรากของจิตวิญญาณของบุคคลนั้นๆ

    เราเคยเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบางคน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เช่น บางคนทำความผิดเรื่องเดิมๆ ทั้งที่ก็ได้รับการอบรมเพื่อแก้ไข หรือสร้างความเข้าใจในความผิดนั้น แต่แล้วเขาเหล่านั้นก็ยังทำผิดเหมือนเดิม นี่เป็นตัวอย่าง ของคนที่ดำรงชีวิตอยู่ภายใต้จิตสำนึก จึงยากที่จะเรียกสติกลับคืนมาได้

    หรือเราเคยเห็นคนบ้า เหมือนเขาเหล่านั้นใช้ชีวิตอยู่ในโลกส่วนตัว พร่ำเพ้อ และเพ้อเจ้อ แต่เรื่องที่คนรอบข้างไม่รู้เรื่องด้วย คนเหล่านั้นถูกครอบงำด้วยจิตใต้สำนึก ซึ่งยากที่จะถอนตัวออกมาได้ ยาที่ใช้ในการรักษาเพื่อปรับสารเคมีบางอย่างในสมองให้เกิดสมดุล อาจเป็นเครื่องมือบรรเทาระยะสั้น ที่ทำให้คนเหล่านั้นสงบ แต่แท้ที่จริงแล้วภายใต้สมอง ซึ่งมีจิดใต้สำนึกนั้นยังคงอยู่และกำลังทำงาน คนเหล่านี้น่าสงสารยิ่งนัก


    ประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้า เกิดจากความเครียดในระดับรุนแรง เมื่อร่างกายเกิดความเครียด จะไม่อยากนอน หรือนอนเท่าไหร่ก็นอนไม่หลับ เพราะร่างกายหลั่งสารเคมีเพื่อให้ตื่นตัวตลอดเวลา เพื่อเตรียมพร้อมกับภัย (ที่เราคิดไปเอง) ที่อาจจะมีมาถึงตนเอง ท้ายที่สุดเมื่อควบคุมตัวไม่ได้ ก็จะทำให้ตนเองรู้สึกราวกับว่าอยู่ในโลกของการแสดงละคร คนอื่นๆเป็นเพียงตัวประกอบ ส่วนตนเองเป็นผู้ตัดสินคนอื่นๆ ในภวังค์นั้น คือ ภวังค์ของการหลุด และดำรงอยู่ด้วยจิตใต้สำนึก ใครมาเตือนสติ เราก็ไม่ฟัง แต่เรารู้ตัวอยู่ตลอดเวลาว่า ณ ขณะนั้น ผู้คนอื่นๆมีปฏิกิริยากับเราอย่างไร แต่เราก็เหมือนตัวละครตัวเอก ที่กำลังเล่น โดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอะไรกับเรา


    ภาวะของการเฉียดบ้า ของข้าพเจ้า กินเวลาอยู่ประมาณ 48 ชั่วโมง แม้ว่าจะได้รับยานอนหลับด้วยการฉีดเข้าเส้นเลือด ก็ยังสามารถตื่นขึ้นมาได้หลังจากหลับไปเพียง 15–20 นาที ในภวังค์นั้น จิตใต้สำนึกของข้าพเจ้า กำลังสอนให้เข้าใจในโลกของสัจธรรม ซึ่งก็คือ ความจริง และการไม่หลอกตัวเอง มนุษย์ทุกคนมีการเวียนว่ายตายเกิด ซึ่งแต่ละคนเลือกเอง สลับบทบาทในการเล่น แต่ทุกรอบในการเกิดนั้น ทุกคนจะประสบพบพานคนที่เคยประสบในชาติก่อนๆ เพียงแค่เขาเหล่านั้นจะสวมบทบาทสลับสับเปลี่ยนกันไป สิ่งที่แท้จริงของการเกิดเป็นมนุษย์ คือ เราเป็นคนเลือกเองว่าจะเกิดหรือไม่เกิด เงื่อนไขของการเลือก ที่ทุกคนเลือกตัดสินใจนั้นมีเพียง 3 อย่าง คือ


    1. เลือกเกิดเพราะอยากพบเจอคนที่เคยพบเจอในชาติก่อน

    2. เลือกเกิดเพราะอยากแก้ไขหรือปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น

    3. เลือกที่จะไม่เกิด


    แต่การได้เกิดของแต่ละคน มาจากความต้องการภายใน คือ ถ้าท่านเลือกเกิดในข้อที่ 1 นั่นหมายความว่าท่านยอมรับความทุกข์ทุกๆอย่างที่ท่านเผชิญในชาตินี้ และยอมรับว่าสิ่งเหล่านั้นจะปรากฎอีกครั้งในชาติหน้าที่ท่านเลือกเกิด ดังนั้นท่านจะมีแรงผลักดันในการเป็นมนุษย์ในชาติหน้า เพราะท่านได้ลิ้มลองความสุขที่ผ่านมาในภพก่อน ส่วนคนที่เลือกเกิดในข้อ 2 ท่านยอมรับว่าในชาติกำเนิดปัจจุบันนั้นเต็มไปด้วยความทุกข์ แต่ท่านพร้อมแล้วที่จะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นในชาติถัดไป


    สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเจอในภวังค์ มีคนเลือกเกิดทั้ง 3 รูปแบบ ในรูปแบบที่ 3 นั้น ดูเหมือนจะมีคนเลือกจำนวนน้อยกว่าสองรูปแบบแรก ในรูปแบบที่ 2 มีคนที่สามารถผ่านการทดสอบ และไม่ผ่านการทดสอบ ยกตัวอย่างเช่น ชาตินี้เกิดเป็นคนทำความชั่วไว้มาก ชาติหน้าเกิดเป็นคนก็ยังทำชั่วเรื่องเดิมๆ คนกลุ่มนี้จึงเวียนว่ายตายเกิดแต่ไม่ได้อยู่ในภพภูมิที่สูงขึ้น ส่วนคนที่เลือกเกิดในรูปแบบที่ 1 ถึงแม้จะมีความสุขและต้องการเกิดอีก แต่การตัดสินใจของคุณ จะไม่เกี่ยวข้องกับคนอื่นๆ เช่น ถ้าคุณมีความรู้สึกสมรสสมรักในชาตินี้ คุณอาจจะเลือกเกิดอีก แต่คู่ของคุณก็มีสิทธิที่จะเลือกเกิดหรือไม่ก็ได้ ดังนั้นคุณจะไม่สามารถคาดหวังได้ว่าชาติหน้าคุณจะเจอกันอีก


    ในการเลือกเกิดนั้น คุณจะต้องยอมตาย แต่การตายของคุณเป็นแค่สภาวะสั้นๆ ถ้าทำจิตใจให้สงบได้ ก็ผ่านไปเกิดได้ง่าย แต่ถ้าทำจิตใจไม่ได้ความทุรนทุรายก่อนที่คุณจะต้องตาย เป็นอะไรที่น่ากลัวกว่าการผ่านความตาย หรือพูดง่ายๆว่า สภาวะทุรนทุราย คือ สภาวะที่คุณกำลังอยู่ในนรก ถูกเฆี่ยนตี ถูกทรมาน แต่ทุกๆอย่างนั้นคือจิตสภาวะที่คุณสร้างเอง ส่วนคนที่ไม่เลือกเกิดเลยนั้นก็มี จิตวิญญาณของเขาเหล่านั้นจะกลับคืนสู่ห้วงจักรวาล เป็นเพียงดวงดาวที่เปล่งประกาย


    คำถามคือ คุณอยากที่จะเกิด หรือไม่อยากที่จะเกิด


    ทุกสิ่งทุกอย่างคุณล้วนเลือกได้ด้วยตัวของคุณเอง แต่ขอให้ระลึกว่าในชาตินี้คุณจะวางบทบาทของคุณที่ตรงไหน หรือคุณจะทำอะไรเพื่อโลกมนุษย์ของเราบ้าง

    Inspire Soul



    Copyright @2022 สงวนลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต

    Comments


    bottom of page