จิตวิญญาณไม่เลือกเพศ

Photo by Sharon McCutcheon on Unsplash

ในโลกของจิตวิญญาณนั้น จิตวิญญาณ (soul) คือพลังงานอย่างหนึ่งที่ไม่มีการเลือนหายออกไปจากจักรวาล หากเราคิดตามความจริงเกี่ยวกับจักรวาล ซึ่งประกอบด้วย โลก สรรพสิ่งต่างๆ ที่มีชีวิต และดวงดาวต่างๆ ที่โคจรในกาแล็กซี่ กอปรทั้งทฤษฎีทางฟิสิกส์ "Photoelectrict effect" ของไอน์สไตน์ ที่กล่าวว่า "สสารย่อมมีการสูญสลาย นอกจากพลังงานเท่านั้นที่จะไม่สูญหาย" เราอาจจะต้องทำการพิสูจน์ต่อไปว่า เรื่องของการกลับชาติมาเกิดอาจเป็นเรื่องจริง จากทฤษฎีดังกล่าวการสูญสลายของสสาร เกิดการแยกของอะตอม แล้วก่อให้เกิดแสงซึ่งเป็นอนุภาคโปรตอนขนาดเล็กที่มีพลังงานเป็นคลื่นความถี่อย่างหนึ่ง สสารสามารถเปลี่ยนรูปได้ หากอะตอมต่างๆ ในสสาร ถูกอนุภาคโปรตอนผลักดันให้ห่างออกจากกัน ถ้าหากร่างกายเป็นสสารที่ไม่เคยสูญหาย แต่สูญสลายเปลี่ยนรูป เช่น กลายเป็นดิน และพลังงานซึ่งเป็นจิตวิญญาณนั้นไม่เคยหายไปจากจักรวาล ดังนั้นการกำเนิดใหม่ของมนุษย์ จากการผสมสเปิร์มและไข่จึงเป็นการสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาใหม่ด้วยหลักการทางชีววิทยา และเมื่อพระเจ้าส่งจิตวิญญาณเข้าสู่ร่างกายของทารกได้อาจเป็นข้อยืนยันได้ดีว่า "การเวียนว่ายตายเกิด" นั้นมีจริง ซึ่ง

การเกิดใหม่อาจเป็นเพียงการเปลี่ยนผ่านจากมิติจักรวาลสู่มิติโลกมนุษย์

สิ่งที่เราอาจสงสัยถัดไปก็คือ การเลือกร่างให้กับจิตวิญญาณนั้น เกิดขึ้นได้อย่างไร คำถามนี้อาจเป็นคำถามที่มิติจักรวาลจะตอบได้ ในขณะที่มิติโลกมนุษย์มีการศึกษาเรื่อง ประสบการณ์ใกล้ความตาย (Near-death experience) เราอาจได้ยินข่าวผู้ป่วยที่หมดสติ ซึ่งในทางการแพทย์ระบุว่ามีระดับการรับรู้ในระดับโคม่า ซึ่งเป็นระดับที่ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้แล้วหรือใกล้ต่อการที่จะเสียชีวิต แต่ก็สามารถกลับมามีสติได้อีก และเราอาจพบเห็นบทสัมภาษณผู้มีประสบการณ์ใกล้ความตายใน Youtube ซึ่งแต่ละคนนั้นต่างบรรยายประสบการณ์หลังความตายว่าไปพบเจออะไรมาบ้าง ก่อนที่จะกลับมามีสติอีกครั้ง หากมิติจักรวาลสามารถจัดการเพื่อส่งจิตวิญญาณเข้าสู่ร่างกายในมิติโลกได้ หรือปฏิเสธจิตวิญญาณของผู้มีประสบการณ์ใกล้ตายเหล่านั้น การเลือกร่างและการกลับคืนมามีสติอีกครั้ง ดูอาจจะเป็นเรื่องพิเศษที่ถูกบริหารจัดการด้วยมิติจักรวาล

เมื่อมองกลับมาที่โลกมนุษย์ คุณจะเห็นว่ามีหลายรูป (form) ที่มีจิตวิญญาณที่ขัดแย้งกับรูป เช่น จิตใจเป็นชายในร่างหญิง จิตใจเป็นหญิงในร่างชาย และยิ่งไปกว่านั้นคือมีจิตใจเป็นได้ทั้งชายและหญิงในร่างที่เป็นหญิง หรือในร่างที่เป็นชาย คุณอาจพบเห็นผู้หญิงที่มีความเข้มแข็งดุจชาย และในทางกลับกันผู้ชายที่ดูมีความนุ่มนวลคล้ายผู้หญิง การศึกษาปรัชญากรีกในการทำนายไพ่ทาโร่ต์ ได้กล่าวถึง พลังงานเพศหญิง (Feminine energy) และพลังงานเพศชาย (Masculine energy) จะปรากฎอยู่ในรูปหนึ่งๆ ในสัดส่วนที่อาจไม่เท่ากันก็ได้ ดังนั้นความสงสัยต่างๆ ที่เรามักสงสัยรูปอื่นๆ ว่า เขาเป็นชายรักชาย หรือเขาเป็นหญิงรักหญิง หรือชายรักหญิงแต่นุ่มนิ่มเหมือนผู้หญิง หรือผู้หญิงรักชายแต่เข้มแข็งเกินชาย รูปที่เราเห็นอยู่บนโลกมนุษย์นี้จึงอาจเป็นเพียงภาพมายาที่พลางตาเหล่ามนุษย์ ที่พระเจ้าสร้างความสับสนและเฝ้ามองดูด้วยความสนุกสนาน เพื่อสังเกตว่า เหล่ามนุษย์จะผ่านบททดสอบในการสลัดตัวตนออกจากรูปนั้นได้อย่างไร พระเจ้าจึงกำหนดโจทย์ที่

มนุษย์มีได้หลากหลายรูปแต่มีจิตวิญญาณซึ่งไม่เลือกเพศ(ของรูป)

ในการศึกษาทางด้านจิตวิทยา อาจมีการวิจัยเรื่องการมีเพศสภาพไม่สอดคล้องกับเพศกำเนิด หรือพูดให้เข้าใจได้ง่ายก็คือ ร่างกายและจิตใจไม่เป็นไปในทางเดียวกัน หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องแปลก แต่ถ้าคุณทำความเข้าใจจิตวิญญาณที่ไม่เลือกเพศ คุณก็จะเปิดใจว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ ผู้ที่ให้คำตอบได้ดีก็คือกลุ่มคนเหล่านั้น บทสัมภาษณ์ต่างๆ และการวิจัยสามารถยืนยันได้ดีว่าการเลี้ยงดูหรือสภาพแวดล้อม อาจเป็นสิ่งที่ผลักดันที่มีส่วนให้เขาเหล่านั้นมีจิตใจที่ต่างไปจากร่างกาย แต่แท้จริงแล้วตัวตนภายในหรือจิตวิญญาณของพวกเขาต่างหาก ที่แสดงถึงตัวตนที่แท้จริง ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกว่ามีการกำเนิดในร่างที่ผิดเพศ

อย่างไรก็ตามความแตกต่างในทางกายภาพในเรื่องเพศตามรูป ได้กลายเป็นเงื่อนไขในการเลือกปฎิบัติในโลกมนุษย์ ซึ่งทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการปฏิบัติต่อกัน ยิ่งไปกว่านั้นบุคคลที่มีเพศสภาพไม่สอดคล้องกับเพศกำเนิดอาจถูกดูแคลนในการปฏิบัติอย่างไม่ให้เกียรติ หรือถูกรังเกียจจากรูปอื่นที่มีอีโก้ว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นมนุษย์ที่ปกติ แต่ในความเป็นมนุษย์แล้วทุกคนย่อมไม่แตกต่างกัน

การจำแนกความปกติและผิดปกติจากเพศสภาพที่ไม่ตรงกับรูปกำเนิด อาจไม่ใช่เงื่อนไขในการแบ่งแยกความเป็นมนุษย์

แต่เราสามารถมองสิ่งเหล่านี้ให้เป็นเสมือน กลุ่มกรณีศึกษาในทางจิตวิทยา หรือในทางการแพทย์ เพื่อให้ง่ายต่อการอ้างอิงในเชิงวิชาการ

ในบางรูปที่มีเพศสภาพตรงรูปก็ควรที่จะถูกให้เกียรติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปที่จักรวาลกำหนดบทบาทที่ไม่สามารถทำแทนกันได้ สิ่งเหล่านี้อาจเป็นบททดสอบตัวตนสำหรับรูปอื่นๆ ที่ต่างออกไป เพื่อเรียนรู้ถึงตัวตนตามบทบาทที่จักรวาลกำหนด

หากในมิติของโลกกำหนดความเป็นมนุษย์ด้วยการจำแนกเพศ เหล่ามนุษย์นั้นจะถูกตีคุณค่าที่อาจไม่เท่ากันในสังคมโลก การเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศจึงสามารถพบเห็นได้โดยทั่วไป

แต่ในมิติจักรวาลนั้นไม่มีเพศเราต่างมีความเท่าเทียมในการเป็นมนุษย์ ซึ่งมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้เพียงอย่างเดียว คือ การเคารพรูปอื่นๆ ที่แตกต่างจากเรา

และหากเราสามารถร่วมกันจรรโลงโลกด้วยการตระหนักรู้ถึงบทบาทที่แตกต่างกันตามรูปที่พระเจ้ากำหนด เสมือนหนึ่งการต่อจิกซอร์ที่มีหลายรูป จนเกิดเป็นภาพที่สมบูรณ์ได้

เราก็จะปรองดองเป็นหนึ่งเดียว

และ

หากคุณตระหนักถึงความเป็นมนุษย์ที่ไม่แบ่งแยกความแตกต่างทางกายภาพ แต่ตระหนักถึงจิตวิญญาณที่มีความเท่าเทียมกันในความเป็นมนุษย์ คุณก็จะไม่เห็นความแตกต่างจากรูปที่ต่างกัน

InspireSoul

inspiresoulth@gmail.com

Copyright @2022 by inspiresoulthailand.com ห้ามสำเนาหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต