top of page

    ตอนที่ 1 แสงสว่าง

    Updated: Sep 21, 2022


    Photo by Wonderlane on Unsplash


    แสงสว่างจ้าราวแสงจากดวงอาทิตย์กำลังส่องไปที่หญิงสาวผู้หนึ่ง เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาแล้วมองไปรอบๆ ด้วยความงุนงงว่า

    “ที่นี่คือที่ไหน”

    หญิงสาวมองเห็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งอยู่ข้างหน้าเธอในระยะทางไกลๆ อย่างเลือนลาง ในกลุ่มคนกลุ่มนั้นเธอมองเห็นพ่อของเธอและยายของเธอ ทั้งสองคนกำลังมองเธอด้วยสายตาที่แสดงออกถึงความห่วงใย เธอกำลังจะร้องเรียกพ่อและยายในกลุ่มคนกลุ่มนั้น แต่แล้วภาพที่เธอมองเห็นนั้นก็พลันมลายหายไป และเธอก็ต้องตกใจที่มีคนมากระซิบข้างๆ ตัวเธอ ความรู้สึกที่เธอสัมผัสได้ว่าเป็นคนนั้น จริงๆ แล้วดูเหมือนไม่มีรูปร่างและเป็นเสมือนหมอกควันสีขาว เธอรับรู้ได้ว่าเขารูปร่างท้วม สูงใหญ่ เธอมองไม่เห็นว่าเขาคนนั้นเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เธอรู้สึกรับรู้ได้ว่าเธอมีความรู้สึกอบอุ่นใจ ที่เขาคนนั้นอยู่ข้างๆ เธอรับรู้ได้ว่าเขากำลังยืนยิ้มให้เธอและมองเธออย่างเมตตา

    “ใจเย็นๆ ” เสียงจากเขาผู้นั้นกล่าวออกมา หญิงสาวจึงเอ่ยถามออกไปว่า

    “ฉันกำลังอยู่ที่ไหนคะ”

    “เมื่อกี้ฉันเห็นพ่อและยายยืนอยู่ไกลๆ กำลังจะเรียก แต่ไม่ทัน”

    “พ่อและยายก็หายไปแล้ว” เธอทำสีหน้าวิตกกังวล

    “ไม่มีอะไรหรอก คุณแค่ตกใจมาก เราเลยต้องเจอกัน”

    “ที่พบกันนี้ก็จะมาช่วยทำให้คุณสบายใจขึ้น ไม่ต้องกังวลอะไรนะ คุณแค่หลับไป” บุคคลที่เธอคุยด้วยได้กล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล

    หญิงสาวเริ่มทำสีหน้างงๆ แล้วเอ่ยถามอีกว่า

    “ฉันเป็นอะไรไป แล้วทำไมเราถึงได้เจอกัน”

    “คุณเป็นใครคะ”

    เขาคนนั้นอมยิ้มที่มุมปาก แล้วเอ่ยออกไปว่า

    “ตอนนี้คุณมีสิทธิที่จะเลือก ว่าคุณอยากที่จะเกิด หรือไม่อยากเกิด”

    เธอทำสีหน้าตกใจ และน้ำตาก็พรั่งพรูออกมาเต็มหน้า หัวใจของเธอเต้นเสียงดัง แต่ในใจของเธอนึกถึงคำพูดที่ว่า

    “เราไม่อาจหลีกเลี่ยงความตายได้”

    เธอร้องไห้สักพัก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือว่า

    “ฉันตายไปแล้วเหรอคะ”

    “ฉันตายตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันตายยังไง แล้วครอบครัวของฉันเป็นยังไง”

    เธอร้องไห้มีเสียงสะอึกสะอื้น ในขณะเดียวกันเธอก็พยายามข่มจิตใจตัวเองเพื่อให้เกิดความสงบ

    ทันใดนั้นสายลมที่อบอุ่นผ่านเข้าไปในตัวเธอ เธอมองเห็นภาพของทุ่งหญ้า ภูเขา ซึ่งภาพๆ นั้นเป็นภาพที่ทำให้เธอเกิดความรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกของการโศกเศร้าเสียใจของเธอ ก็พลันมลายหายไป ความรู้สึกได้ถึงการได้รับความความเมตตาและกรุณากลับเข้ามาแทนที่ ความทุกข์โศกต่างๆ หายไป บุคคลปริศนาผู้นั้นมองไปที่เธอแล้วบอกกับเธอว่า

    “อดีตของคุณ มันผ่านไปแล้ว ไม่มีใครทำให้คุณจดจำอดีตได้”

    “คุณมีเพียงปัจจุบันเท่านั้น”

    “ฉันกำลังถามคุณว่า อยากเกิดหรือไม่อยากเกิด”

    หญิงสาวทำสีหน้าครุ่นคิด เธอกำลังพยายามคิดถึงอดีตต่างๆ ที่ผ่านมา เพื่อค้นหาคำตอบที่จะตอบให้กับเขาผู้นั้น แต่เธอคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก เธอจึงพูดว่า

    “ฉันจำอะไรไม่ได้เลย แล้วฉันจะตัดสินใจยังไง ว่าจะเกิดหรือไม่เกิดอีก”

    “ชาติที่แล้วฉันเป็นใครฉันก็จำไม่ได้ แล้วถ้าฉันเกิดฉันจะไปอยู่กับใคร แล้วถ้าไม่เกิดจะไปไหน”

    เขาถอนหายใจ แล้วเอ่ยเบาๆ ว่า

    “มนุษย์นี่คิดเยอะจริงๆ”

    “ ถ้ารู้ทุกสิ่งทุกอย่าง มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ คุณก็จะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยในชีวิต”

    “มนุษย์นี่ก็ชอบฟังแล้วก็เชื่อสิ่งที่เขาพูดตามๆ กันมา”

    “เอาเป็นว่าคุณเลือกมาแล้วกัน ฉันจะได้รีบกลับไปทำหน้าที่ ยังมีคนอื่นๆ ที่กำลังรอเข้าคิว”

    เธอทำหน้าสงสัย แล้วถามเขาต่อไปว่า

    “คิวอะไรคะ”

    เขาส่ายหัวและอมยิ้ม

    “คิวตัดสินใจไปโลกมนุษย์นะสิ”

    ณ ขณะนั้นสมองของหญิงสาวไม่สามารถจดจำอะไรได้เลย เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอจะไปไหน เธอไม่สามารถรับรู้ถึงความเป็นมนุษย์ สถานที่ ครอบครัว ที่เธอเคยมี แต่สิ่งที่เธอรู้คือการเป็นคน ในสภาพหรือในรูปร่างอย่างที่เธอเป็น เธอไม่สามารถระลึกได้ถึงอดีต หรืออนาคต ไม่ทราบว่าโลกมนุษย์คืออะไร แต่ความรู้สึกของเธอที่รับรู้ได้คือ

    “ความต้องการถวิลหาการพบเจอใครสักคนที่เหมือนกัน”

    “เธอรู้สึกถึงความโดดเดี่ยว”

    หญิงสาวจึงคิดอยู่ในใจอย่างเดียวว่า เธอต้องการไปเจอกับคนอื่นๆ ที่มีความเป็นคนในแบบเดียวกันกับเธอ เธอแค่มองไม่เห็นใครเลยในตอนนี้ เธอไม่รู้ว่าหากเธอไม่ไปเกิดแล้วเธอจะไปไหน เธอเข้าใจแค่ว่า การเกิด คือ การไปโลกมนุษย์ ส่วนการไม่เกิดนั้น ไม่มีคำตอบใดที่จะทำให้เธอเข้าใจว่าไปไหน

    สุดท้ายแล้วเธอก็เดินตามเขา เพื่อไปที่ประตูบานหนึ่ง ซึ่งมองผ่านออกไปเธอมองเห็นธรรมชาติที่สวยงาม รู้สึกได้ถึงความสงบในจิตใจ สิ่งต่างๆ ที่เธอเห็น เธอไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ภาพที่เธอเห็นนั้นโอบล้อมเธอด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจ อย่างบอกไม่ถูก เมื่อเธอเดินไปที่ประตูบานนั้น เธอหลับตาแล้วรู้สึกถึงความสงบในจิตใจ แล้วเธอก็ก้าวข้ามประตูบานนั้น


    --มันตราเรย์--

    Comments


    bottom of page