top of page

    ต่างจิตแต่เป็นหนึ่ง

    Updated: Jul 15, 2022



    ในโลกใบนี้มนุษย์แต่ละคนล้วนมีเสรีภาพทางความคิด สามารถถ่ายทอดหรือนำเสนอความคิดของตนเองสู่ผู้อื่นได้ อย่างไรก็ตามการแบ่งกลุ่ม เช่น ระดับการศึกษา ฐานะทางเศรษฐกิจ และฐานะทางสังคม อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้คนบางกลุ่มถูกปิดกั้นในการแสดงออกทางความคิด ในทางกลับกัน กลุ่มที่ได้รับการยอมรับจากสังคมในบางกลุ่มอาจได้รับโอกาสในการแสดงออกอย่างไร้ขอบเขต


    หากเราจะมองในสังคมโลกปัจจุบัน เราใช้เวลาในการศึกษาเล่าเรียน อย่างน้อย 1 ใน 4 ของเวลาชีวิต คนที่เรียนในระดับสูง อาจใช้เวลาถึง 2 ใน 4 ของเวลาชีวิต การเรียนในสถานศึกษาเป็นการบ่มเพาะความรู้ให้ผู้เรียน เป็นผู้ที่มีสติปัญญา (Intellect) สามารถนำหลักการทางวิชาการมาใช้ในการทำงานหรือในการประกอบอาชีพ แต่การเป็นผู้ที่มีสติปัญญานั้นอาจถูกยกย่องอย่างหลงลืมไปว่าเป็นผู้ที่มีสติสัมปชัญญะจนบิดเบือนความเป็นจริงที่ว่า

    เราทุกคนล้วนมีคุณค่า ไม่ว่าจะมีการศึกษาระดับใด หรือสถานภาพเป็นเช่นไร และเราทุกคนล้วนมีสติสัมปชัญญะได้ เพียงแค่ขัดเกลาจิตวิญญาณอยู่เสมอๆ

    การเป็นผู้ที่มีความรู้ที่ผ่านการศึกษาในศาสตร์ต่างๆ ในโลกปัจจุบันนั้น จึงอาจไม่ได้การันตีว่าจะเป็นผู้ที่มีสติสัมปชัญญะเสมอไป นั่นเพราะว่า

    เราหลงไปเองว่าการปั้นสถานศึกษา ด้วยการการันตีคุณภาพ จะสามารถบ่มเพาะจิตใจของเราให้เจริญงอกงามและมีสติ

    ในสังคมรอบตัวเราสามารถพบเห็นผู้ที่มีปัญหาในชีวิต ไม่ว่าจะมีการศึกษาระดับใด หรือสถานภาพแตกต่างกัน ไม่ว่าจะต่างฐานะ ต่างอาชีพ ต่างเพศ และต่างวัย และบางคนนั้นอาจเลือกทำบางสิ่งบางอย่างที่อาจดูเหมือนขาดสติ หรือใช้ความรู้ต่างๆ ที่มีเพื่อลวงล่อและบิดเบือนพฤติกรรม ซึ่งเมื่อพิจารณาในส่วนลึกแล้วไร้ซึ่งจิตวิญญาณ

    เราอาจจะหลงไปเองว่ากระบวนการตัดสินในโลกปัจจุบันนั้นใช้หลักการทางจิตวิญญาณ

    ซึ่งในความเป็นจริงแล้วตรรกะหรือความมีเหตุมีผล พยาน หลักฐาน หรือข้อกล่าวอ้างต่างๆ ที่แสดงข้อเท็จจริง เป็นเพียงสิ่งที่เห็นทางกายภาพและสัมผัสได้ทางกาย ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า แต่เจตนาและจิตวิญญาณซึ่งอยู่นอกเหนือกายภาพ ยังคงเป็นสิ่งที่ซ่อนเร้นและไม่อาจสัมผัสได้ ซึ่งยังถูกซุกซ่อน ถูกปิดบัง และถูกพลางตา เพื่อให้หลงและถูกล่อลวง

    เราทุกคนจึงอาจตกอยู่ในโลกสามสี ที่มีสีขาว สีดำ และสีเทา เรื่องเดียวกัน บางคนอาจมองเป็นสีขาว บางคนอาจมองเป็นสีดำ และบางคนอาจมองเป็นสีเทา

    ผู้มีการศึกษา จึงควรตระหนักรู้อยู่เสมอว่า คุณคือผู้ที่มีสติปัญญา ซึ่งความรู้ที่คุณได้ศึกษามานั้นเป็นเพียงเครื่องมือในการประกอบอาชีพ และสามารถแสดงอิทธิฤทธ์ทางปัญญาที่แสดงถึงความแหลมคม เสมือนหนึ่งที่คุณถือมีดที่อาจใช้เพื่อทิ่มแทงผู้อื่น ทิ่มแทงตนเอง หรือสามารถปลุกปั่นสถานการณ์ต่างๆ ได้ทุกเมื่อ


    ความขัดแย้งในโลกปัจจุบัน ล้วนสอนให้เราเรียนรู้ถึงสิ่งที่ตรงกันข้าม เฉกเช่น

    เรารู้จักสีขาวเพราะเรารู้จักสีดำ
    เรารู้จักสีดำเพราะเรารู้จักสีขาว
    เรารู้จักความสว่างเพราะเรารู้จักความมืด
    เรารู้จักความมืดเพราะเรารู้จักความสว่าง

    ดังนั้น

    หากเราเรียนรู้สิ่งที่ตรงกันข้ามนั้นในระดับลึกๆ จะพบว่าเราทั้งหลายนั้นต่างหลอมรวมเป็นหนึ่ง ไม่ว่าเราจะอยู่ข้างหนึ่งข้างใด

    และหากคุณเปิดใจที่จะเรียนรู้เพื่อขัดเกลาจิตวิญญาณให้ส่องแสงสว่างเรืองรอง กอปรด้วยสติปัญญา

    ถูกหรือผิด
    เกลียดหรือรัก

    นั่นย่อมไม่มี



    InspireSoul



    Copyright @2022 by inspiresoulthailand.com ห้ามทำสำเนาเผยแพร่หรือแจกจ่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต



    1 Comment


    Netti Netti
    Netti Netti
    Jul 07, 2022

    เป็นบทความที่ทำให้เรียนรู้ความแตกต่างได้ดีค่ะ😊

    Like
    bottom of page