โรงเรียนโลกมนุษย์

Photo by MChe Lee on Unsplash

เราทุกคนคงรู้จักโรงเรียนเป็นอย่างดี ทุกคนจะต้องเข้ารับการศึกษาเพื่อให้มีความรู้ และสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ แต่โรงเรียนที่เราไปศึกษากันนั้น อาจไม่ได้สอนในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณ เราอาจจะผ่านการเรียนวิชาจิตวิทยา วิชาผู้นำ วิชาผู้ประกอบการ วิชาวาดเขียน และวิชาดนตรี หรือถ้าหากมีสอนเราก็อาจเรียนด้วยความกังวลใจเพียงเพื่อให้สอบผ่าน และเราอาจจะไม่ได้ซาบซึ้งกับมันจริงๆ

การเป็นผู้ที่มีสติปัญญา (Intellect) ที่ถูกบ่มเพาะจากสถานศึกษาต่างๆ อาจไม่ได้ทำให้คุณเป็นผู้ที่มีสติสัมปชัญญะเสมอไป

สถานศึกษาต่างๆ ในโลกปัจจุบัน จะต้องสอบแข่งขัน หรือต้องผ่านกระบวนการคัดเลือก แม้ว่าบางที่อาจจะเป็นการรับสมัครเข้าศึกษาโดยไม่ต้องแข่งขัน แต่เราก็ต้องมีปัจจัยที่มากเพียงพอที่สามารถทำให้เราเข้าศึกษาได้ นั่นคือต้องมีเงิน เพื่อแลกกับความรู้ที่เราจะได้รับจากบุคลากรที่เราเชื่อถือในด้านความสามารถทางวิชาการ ยิ่งไปกว่านั้นการเลือกสถาบันการศึกษาขึ้นกับ Branding หรือการทำการตลาดด้วยการโฆษณาถึงสรรพคุณและชื่อเสียง ระดับความสามารถในการแข่งขันกับสถานศึกษาอื่นๆ ทั่วโลกได้ ซึ่งมักจะถูกรายงานออกมาด้วยการจัดอันดับหรือ Ranking

มีเพียงสถานศึกษาแห่งเดียวที่ไม่ต้องมีปัจจัยใดๆ และไม่มีการแข่งขันกับใคร สถานศึกษานั้นคือ โรงเรียนโลกมนุษย์ (Earth school)

การแข่งขันมีเพียงอย่างเดียวคือ การแข่งขันกับตนเอง เพื่อที่จะพัฒนาตนเองไปยังจุดที่เรียกว่า Higher self หรือ คุณในรูปแบบที่สูงขึ้นและเป็นรูปแบบที่ดีที่สุดในการเป็นมนุษย์ (Human being)

โรงเรียนโลกมนุษย์ มีจุดมุ่งหมาย คือการพัฒนาพลเมืองของโลก ให้สามารถปฏิบัติภาระกิจในการเป็นมนุษย์ ที่บรรลุประโยชน์ต่อตนเองและเพื่อนมนุษย์ โรงเรียนโลกมนุษย์จะส่งบททดสอบ เพื่อประเมินความสามารถของพลเมืองเป็นระยะๆ เมื่อผ่านการทดสอบแต่ละเรื่อง การเจริญเติบโตของตนเอง (Self growth) ก็จะถูกประเมิน อาจมีบ้างที่บางคนจะต้องเรียนซ้ำชั้น หรือบางคนเรียนเก่งถึงขั้นก้าวข้ามชั้นเรียน ส่วนความสำเร็จของการเรียนก็คือ การขึ้นสู่สวรรค์

ในโลกของจิตวิญญาณ มนุษย์ที่สามารถพัฒนาจิตวิญญาณได้และบรรลุในระดับสูง จะเข้าถึงดินแดนที่เรียกว่าสวรรค์ กระบวนการที่จะนำไปสู่สวรรค์เรียกว่า Ascension ซึ่งในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการนี้ความเป็นตัวตนที่สูงขึ้นหรือ Higher self ก็จะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และ

เมื่อคุณสามารถขึ้นสู่สวรรค์ได้สำเร็จ ก็เท่ากับว่าคุณสามารถเป็นมนุษย์ที่ดำรงตนอยู่ด้วยสติ (Conciousness) ซึ่งมีความรับรู้ (perception) ความคิด (thought) ความรู้สึก (feeling) และ การตระหนัก (Awareness) ซึ่งผนึกเข้ากับจิตวิญญาณของคุณโดยสมบูรณ์

หากจะมองในโลกมนุษย์ปัจจุบัน ก็จะมีทั้งคนที่ดำรงชีวิตด้วยสติ และไม่นำเอาสติมาใช้ในการดำรงชีวิต ในจักรวาลจึงคาดหวังที่จะให้มนุษย์พัฒนาตนเองเพื่อไปอยู่ในจุดที่สูงขึ้น ซึ่งก็คือการดำรงชีวิตด้วยสติเพื่อให้สามารถทำประโยชน์ให้กับตนเองและต่อผู้อื่นได้

ความเป็นตัวตนที่สูงขึ้นของเราคืออะไร คุณอาจจะลองพิจารณาคุณลักษณะที่เกี่ยวกับการกระทำในตัวคุณสักสองหรือสามอย่างที่แสดงถึงตัวคุณจริงๆ ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะสามารถมองเห็นคุณลักษณะของตนเองในเรื่อง ความตรงไปตรงมา และความซื่อสัตย์ ดังนั้นการกระทำของคุณไม่ว่าจะดำเนินชีวิตอย่างไร ก็จะคงไว้ซึ่งคุณลักษณะนี้ไปตลอด โดยไม่มีวันเปลี่ยนแปลง คุณลักษณะที่ดีบางอย่างก็อาจทำให้เพื่อนมนุษย์ไม่พอใจ แต่

หากคุณดำรงตนในตัวตนที่สูงขึ้น คุณจะไม่หวั่นไหวที่จะแสดงมันออกมา

ในทางกลับกัน หากคุณยังไปไม่ถึงตัวตนที่สูงขึ้น คุณอาจจะถูกกระทบด้วยความคิดของตนเอง และแสดงออกมาด้วยความรู้สึกต่างๆ เช่น ความกลัว ความกังวลใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสิ่งกระตุ้นจากภายนอก (เช่น บุคคลอื่น) แล้วในที่สุดจิตของคุณก็อาจจะไม่มีความสุขกับสิ่งต่างๆ และการกระทำที่กำลังเกิดขึ้น

ในด้านจิตนั้น โรงเรียนโลกมนุษย์ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการ เพื่อให้จิตมีสติ (Conciousness) สามารถรับรู้ (Awareness) สภาวะในปัจจุบัน การบริหารจิตใจ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะหล่อหลอมตัวคุณให้เป็นคุณในระดับที่สูงขึ้น การบริหารจิตอาจเริ่มจากการบริหารความคิด การบริหารความคิดในขั้นพื้นฐานที่ทุกคนสามารถทำได้คือการฝึกคิดบวก ซึ่งความแตกต่างของการคิดบวกและคิดลบที่คุณสามารถรับรู้ได้ คือ

การคิดลบมักจะทำให้เกิดแรงต่อต้านภายในใจคุณ ยิ่งคิดยิ่งผูกจิตให้ว้าวุ่น

การคิดบวกเป็นการคิดที่ไม่สร้างขอบเขตและไม่มีเงื่อนไข เมื่อไม่มีอะไรเป็นขอบเขตหรือเงื่อนไขมาขวางกั้น จิตใจของเราก็มักจะเป็นอิสระและรู้สึกสบาย

และเมื่อเรารู้สึกอิสระและสบาย สมองเราก็จะหยุดคิด ซึ่ง

การไม่คิด คือ สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณควรจัดการ

การคิดและอารมณ์มักจะมาคู่กัน บางครั้งอารมณ์อาจเกิดขึ้นก่อนการคิดหรือในทางกลับกัน ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณรู้สึกดีกับคนบางคน คุณก็จะคิดว่าเขาดี แต่อารมณ์ที่เกิดขึ้นมันมักเป็นสิ่งที่ไม่จริง เพราะประมวลผลมาจากสมองที่ส่งความรู้สึกโดยขาดหลักฐานหรือข้อเท็จจริงประกอบ อาจจะกล่าวได้ว่านี่คือจิตปรุงแต่ง หรือถ้าจะให้น้ำหนักด้วยตัวเลขทางคณิตศาสตร์ 70% อาจจะเป็นภาพมายา (Illusion) ที่คุณสร้างขึ้นในความคิด อีก 30% คือความรู้สึก (feeling) ที่คุณรับรู้ได้

ในบางสถานการณ์ที่การคิดก่อให้เกิดอารมณ์ เช่น คุณคิดว่าเขาไม่ชอบคุณ อารมณ์ที่จะตามมาก็คือ กลัว หรือไม่กล้าเข้าใกล้

โรงเรียนโลกมนุษย์ จึงต้องการให้คุณผ่านบททดสอบ เรื่องการคิดและอารมณ์ ซึ่งคุณอาจจะต้องบริหารจัดการมันอยู่เรื่อยๆในชีวิตประจำวัน

โรงเรียนโลกมนุษย์ อาจมีการเรียนซ้ำชั้น หากคุณไม่สามารถพัฒนาตัวตนให้ก้าวข้ามบททดสอบนั้นได้ แต่การเรียนซ้ำชั้นของคุณ จะไม่มีการตัดสินว่าคุณนั้นเขลาแต่อย่างใด แต่จะให้โอกาสคุณได้ทำใหม่เพื่อแก้ไขอีกครั้ง คุณอาจจะลองทบทวนการใช้ชีวิตของคุณในอดีตที่ผ่านมา มีเรื่องใดบ้างที่คุณมักทำผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจมีความสัมพันธ์แย่ๆ กับบุคคลที่คุณเลือกด้วยการตัดสินใจในรูปแบบเดิมๆ คนที่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณ จึงมักแสดงออกด้วยบทบาทเดิมๆ ที่คล้ายๆกัน

แต่ถ้าคุณสามารถข้ามชั้นเรียนไปอยู่ในระดับที่สูงขึ้น สิ่งที่คุณจะได้รับนั้นมีมากมาย เช่น

คุณจะใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่

คุณจะไม่มีความกังวลต่อเรื่องใด

คุณจะไม่มีความกลัวต่อสิ่งใด

คุณจะเปิดกว้างและกล้ารับบทเรียนใหม่ๆ และ

คุณจะรักได้อย่างไม่มีเงื่อนไข

Inspiresoul

inspiresoulth@gmail.com

@copyright 2022 สงวนลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต